B.E.2509

ท่านอาจารย์ และ ฌอง บวสเซอลิเยร์ พร้อมทั้งนักศึกษาคณะโบราณคดีคราวขุดค้นที่เมืองโบราณอู่ทอง อ. อู่ทอง จ. สุพรรณบุรี พ.ศ. 2509

ที่มา : โบราณวิทยาเรื่องเมืองอู่ทอง. พระนคร : กรมศิลปากร, 2509. ใน พ.ศ. 2509 ท่านอาจารย์และ ฌอง บวสเซอลิเยร์ พร้อมทั้งนักศึกษาคณะโบราณคดีขุดค้นที่เมืองโบราณอู่ทอง อ. อู่ทอง จ. สุพรรณบุรี ครั้งนั้นจึงเกิดข้อสมมติฐานใหม่ทางโบราณคดีว่า จำนวนผู้คนที่อาศัยในเมืองอู่ทองเริ่มเบาบางตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 15-16 ส่งผลให้แนวคิดเรื่องสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระเจ้าอู่ทองไม่ได้เสด็จมาจากเมืองอู่ทอง

B.E.2508

ตราคณะกรรมการนักศึกษาคณะโบราณฯ

ที่มา : บทจร. ฉบับที่ 1 (เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์, 2537)

เกิดคณะกรรมการนักศึกษาคณะโบราณคดีอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2508 มีนายดำรงสิทธิ ณ บางช้าง ดำรงตำแหน่งหัวหน้า โดยจัดดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมนักศึกษาของคณะโบราณคดี เช่น การจัดทัศนศึกษา งานทำบุญเลี้ยงพระ งานรื่นเริงอื่น ๆ เป็นต้น

SU Archaeology Song

เพลงคณะโบราณคดี

ตั้งแต่ราว พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา น่าจะเริ่มมีการแต่งเพลงคณะโบราณคดีมาเป็นระยะๆ ผู้ซึ่งมีบทบาทในการแต่งเพลงช่วงระยะแรก คือ คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ (เข้าเรียนคณะโบราณคดี พ.ศ. 2507-2513) เพลงที่แต่งไว้ในช่วงที่เป็นนักศึกษา ได้แก่ เพลงไม่มีน้ำตา (ภายหลังรู้จักกันในชื่อ โบราณคดีไม่มีน้ำตา), เพลงรีบไปทำงาน (ภายหลังรู้จักกันในชื่อ เพลงโบราณคดี 2), เพลงอยุธยา, เพลงลพบุรี และ เพลงสุโขทัย

Phannarai Building

ตึกพรรณราย

พ.ศ. 2507 มหาวิทยาลัยศิลปากร ขยายพื้นที่การเรียนการสอนเพิ่มเติมจากบริเวณวังกลางและวังตะวันออก เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณ “วังท่าพระ” เป็นสถานศึกษา คณะโบราณคดีจึงย้ายมาจัดการเรียนการสอน ที่อาคาร 2 หลังของวังท่าพระ คือตำหนักพรรณราย และตำหนักใหญ่

อาจารย์ผู้สอนในช่วงแรกของคณะโบราณคดี มีฐานะเป็นลูกจ้างของมหาวิทยาลัย หรือเป็นข้าราชการในกรมศิลปากร เช่น ชิน อยู่ดี ผู้สอนวิชาโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บังเอิญ มาประณีต, ปรีชา กาญจนาคม, พเยาว์ อัศวเดชา, ศรีศักด์ วัลลิโภดม, พันธุ์ทิพย์ ณ สงขลา, สุทธิลักษณ์ ไชยสุต และมนตรี อุมะวิชนี เป็นต้น คณาจารณ์เหล่านี้เป็นผู้บุกเบิกยุคเริ่มต้นของคณะโบราณคดี บางท่านได้ไปศึกษาต่อในสาขาเฉพาะทางและกลับมาเป็นอาจารย์ รวมถึงเป็นผู้วางรากฐานแนวทางพัฒนาไปเป็นสาขาภาควิชาต่าง ๆ